ตรีนุช ยกฐานะ “กศน.” ตั้ง “กรมส่งเสริมการเรียนรู้ (กสร.)” แทน
นางสาวตรีนุช เทียนทอง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ (รมว.ศธ.) ได้กล่าวถึงการตั้งกรมส่งเสริมการเรียนรู้ว่า พ.ร.บ.ส่งเสริมการเรียนรู้ พ.ศ. 2566 ได้ประกาศในราชกิจจานุเบกษา เมื่อวันที่ 19 มีนาคม 2566 ซึ่งเมื่อพ้นกำหนด 60 วันนับตั้งแต่วันที่ประกาศ หรือวันที่ 19 พฤษภาคม 2566 จะมีการยกเลิก พ.ร.บ.ส่งเสริมการศึกษานอกระบบและการศึกษาตามอัธยาศัย พ.ศ. 2561
และยกฐานะสำนักงานส่งเสริมการศึกษานอกระบบและการศึกษาตามอัธยาศัย (สำนักงาน กศน.) จากหน่วยงานภายใต้สำนักงานปลัดกระทรวงศึกษาธิการ (สป.ศธ.) เป็นกรมส่งเสริมการเรียนรู้ (กสร.) ที่มีฐานะเป็นนิติบุคคล ภายในกระทรวงศึกษาธิการ (ศธ.) โดยมีอำนาจหน้าที่ในการจัดการเรียนรู้ 3 รูปแบบคือ 1.การเรียนรู้ตลอดชีวิต 2.การเรียนรู้เพื่อการพัฒนาตนเอง และ 3.การเรียนรู้เพื่อคุณวุฒิตามระดับ
โดยนางสาวตรีนุชกล่าวต่อไปว่า ศธ.ได้กำหนดภารกิจที่ต้องดำเนินการให้เสร็จในกรอบระยะเวลาที่กฎหมายกำหนด เพื่อให้เกิดการตั้งกรมส่งเสริมการเรียนรู้ที่สมบูรณ์ เช่น กำหนดอำนาจหน้าที่ โครงสร้าง และหน่วยงานภายในของ กสร., ประสานสำนักงานปลัดกระทรวงศึกษาธิการ เพื่อออกแบบและแนวทางให้ได้มาซึ่งคณะอนุกรรมการข้าราชการพลเรือน (อ.ก.พ.) กสร. และประสานคณะกรรมการข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา (ก.ค.ศ.) เพื่อออกแบบและแนวทางให้ได้มาซึ่งคณะอนุกรรมการข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา (อ.ก.ค.ศ.) กสร.,
- ร้านค้าปิดที่ระดับต่ำสุดเป็นเวลาเจ็ดปี
-
อดีตประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ของสหรัฐฯ ขายการ์ดซื้อขาย NFT จนหมด
การจัดตั้ง ยุบ รวม เลิก รวมถึงโอนบรรดากิจการ อำนาจหน้าที่ ทรัพย์สิน งบประมาณ สิทธิ หนี้สิน รวมถึงข้าราชการ ลูกจ้าง และอัตรากำลังทั้งหมด จาก สป.ศธ. ไปขึ้นกับกรมส่งเสริมการเรียนรู้ ซึ่งขณะนี้อยู่ในระหว่างการรวบรวม วิเคราะห์ และเสนอถ่ายโอนเรื่องต่าง ๆ รวมถึงการเร่งรัดให้มีการจัดทำกฎหมายลำดับรอง ตาม พ.ร.บ.ส่งเสริมการเรียนรู้ พ.ศ. 2566 เพื่อจัดเตรียมกฎหมาย ประกาศกระทรวง ประกาศกรม และระเบียบกรมไว้ เพื่อให้เกิดการจัดทำให้แล้วเสร็จทันตามกรอบของระยะเวลาในแต่ละมาตรา และการปฏิรูปหลักสูตรการเรียนรู้ ให้สอดคล้องกับ พ.ร.บ.ส่งเสริมการเรียนรู้ เป็นต้น
“กฎหมายฉบับนี้มีความสำคัญมาก ซึ่งจะทำให้ผู้เรียนในทุกช่วงวัยเข้าถึงการเรียนรู้ได้ตามความพร้อมและศักยภาพของบุคคล ทำให้เกิดความเสมอภาคและเท่าเทียมกันของทุกคนในการได้รับการศึกษา อันนำไปสู่การลดความเหลื่อมล้ำทางการศึกษา ซึ่งกรมส่งเสริมการเรียนรู้ มีกลุ่มเป้าหมายเป็นผู้อยู่ในวัยเรียน แต่ไม่ได้รับการศึกษา, ผู้ซึ่งพ้นวัยที่จะศึกษาในสถานศึกษา, ผู้ที่อยู่ในพื้นที่ห่างไกลหรือทุรกันดารและไม่มีหน่วยงานใดไปดำเนินการ เพื่อให้ได้รับการศึกษาเพื่อดำรงชีวิตอย่างมีคุณภาพ ซึ่งสำนักงาน กศน. หรือกรมส่งเสริมการเรียนรู้ ในอนาคต จะต้องมีการปรับปรุงระเบียบ กฎหมาย รวมถึงการปรับภารกิจให้ทันต่อการเปลี่ยนแปลงของรูปแบบการเรียนรู้และกลุ่มเป้าหมายที่สอดคล้องกับ พ.ร.บ.ดังกล่าวอย่างเร่งด่วน ดิฉันเชื่อมั่นว่าความร่วมมือร่วมใจอย่างเข้มแข็งจากทุกภาคส่วนของคน กศน. และภาคีเครือข่าย จะขับเคลื่อนให้การดำเนินงานตาม พ.ร.บ.ส่งเสริมการเรียนรู้ พ.ศ. 2566 เกิดผลประโยชน์สูงสุดแก่ประชาชนตามเจตนารมณ์ของ พ.ร.บ.ดังกล่าวต่อไป” นางสาวตรีนุช กล่าว
ติดตามข่าวสารเพิ่มเติมได้ที่ barriearea-realestate.com